วิจารณ์ผล
จากการศึกษาครั้งนี้ได้มีการกำหนดจุดสำคัญ ๆ ในกระบือ โดยจุดที่สำคัญมี 18 จุด ถูกกำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญ และผู้ตัดสินการประกวดกระบือระดับประเทศ จุดที่กำหนด และระยะที่วัด เป็นจุดที่วัดได้ง่ายและมีความแม่นยำ เช่น ความสูง และเส้นรอบอก ปุ่มกระดูกที่สามารถมองได้จากภายนอกอาจทำให้เกิดปัญหาถ้าใช้เครื่องสแกน 3 มิติ เนื่องจากการหาปุ่มกระดูกทำได้ลำบากเมื่อมองผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงมีการติดสติ๊กเกอร์ที่มีสีขาวสลับดำตรงตำแหน่งที่ต้องการวัด เพื่อระบุตำแหน่งได้ชัดเจนเมื่อทำการสแกน ตำแหน่งดังกล่าวทั้ง 2 ข้าง คือ บริเวณหัวไหล่กลางกระดูกสะบัก ปุ่มกระดูกหัวไหล่ ปุ่มบนกระดูกเชิงกรานส่วนหน้า (point of ilium) ซึ่งเรียกว่า ปุ่มกระดูกสะโพก และก้นกบ หรือปุ่มบนกระดูกเชิงกรานส่วนหลัง (point of ischium) อย่างไรก็ตามในการวัดสัดส่วนกระบือเป็นที่ทราบว่าจุดต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าทำการวัดด้วยสายวัดและไม้บรรทัดจะกระทำได้อย่างลำบาก และใช้เวลานาน ดังนั้น การใช้เครื่องสแกน 3 มิติที่พัฒนามาจากเครื่องสแกน 3 มิติในคนจึงมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากสามารถวัดได้หลายตำแหน่งพร้อมกันในเวลาอันรวดเร็ว และไม่จำเป็นต้องเข้าไปสัมผัสตัวสัตว์
จากการหาความสัมพันธ์ระหว่างการวัดด้วยสายวัดและไม้บรรทัด และการวัดด้วยเครื่องสแกน 3 มิติที่จุดต่าง ๆ ตามที่กำหนดพบว่า การใช้เครื่องสแกน 3 มิติมีความถูกต้องแม่นยำสูง โดยค่าสัมประสิทธิ์ของสหสัมพันธ์สูงมากที่ตำแหน่งเส้นรอบอก ช่วงไหล่ ความกว้างสะโพก ความยาวของลำตัว ความยาวของสะโพกถึงก้นกบ ความยาวหาง และค่าที่วัดจากเขา จึงเชื่อได้ว่าเครื่องสแกน 3 มิติสามารถใช้แทนการวัดด้วยสายวัดและไม้บรรทัดได้ อย่างไรก็ตามความกว้างฐานเขาไม่พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการมองฐานเขาที่ติดกับกระหม่อมจากเครื่องสแกน 3 มิติไม่ชัดเจน เพราะไม่มี marker ติดอยู่ ดังนั้นการทดลองการศึกษานี้จึงมีความเชื่อมั่นสูงในการใช้เครื่องสแกน 3 มิติในการวัดค่าความยาวของจุดต่าง ๆ ต่อไป
ค่าเฉลี่ยที่ได้จากกระบือเพศผู้ พบว่าไม่ว่าจะเป็นจุดวัดใด ๆ จะมีค่าเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะความสูง เส้นรอบอก ความกว้างสะโพก ความกว้างบั้นท้าย ความยาวจากไหล่ถึงสะโพก ไหล่ถึงปุ่มกระดูกท้าย ความยาวที่วัดได้จะชะลอลงเมื่ออายุ 4-5 ปีขึ้นไป แสดงให้เห็นว่าการเจริญเติบโตของกระบือเพศผู้จะชะลอลงเมื่ออายุประมาณ 4-5 ปี ซึ่งสอดคล้องกับการแบ่งประเภทการประกวดกระบือ ได้แก่ รุ่นเล็ก (อายุไม่เกิน 4 ปี) และรุ่นใหญ่ (อายุมากกว่า 4 ปี) นอกจากนี้ จากการศึกษาที่ผ่านมา การทำนายน้ำหนักตัวในกระบืออายุ 2-4 ปี พบว่าน้ำหนักตัวจะมีความสัมพันธ์กับสัดส่วนของร่างกาย (12) ซึ่งแสดงว่าน้ำหนักกระบือจะเพิ่มสูงขึ้นที่อายุ 2-4 ปี อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาถึงระดับสมบูรณ์พันธุ์เต็มที่ (Puberty) ของกระบือ จะพบว่าฮอร์โมนเพศอยู่ในระดับสมบูรณ์ประมาณ 15-40 เปอร์เซ็นต์ของกระบือเพศผู้ทั้งหมดที่ศึกษาที่มีอายุเฉลี่ย 30 เดือน และ 25-35 เปอร์เซ็นต์ในกระบือเพศเมียที่มีอายุเฉลี่ย 32-37 เดือน และกระบือจะโตเต็มที่เมื่ออายุ 5 ปี (7 )
สำหรับกระบือเพศเมียให้ผลในแนวทางเดียวกันโดยพบความสูง เส้นรอบอก ความกว้างสะโพก ความกว้างบั้นท้าย ความยาวจากไหล่ถึงสะโพก ความยาวจากไหล่ถึงปุ่มกระดูกท้าย และความยาวหาง เพิ่มสูงขึ้นตามอายุ แต่จะชะลอลงในอายุที่เร็วกว่าเพศผู้ คือช่วงอายุ 3-4 ปี เส้นรอบวงเข่า (knee) ในเพศเมียไม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเหมือนเพศผู้ ซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกับน้ำหนักตัวในเพศเมียที่มีโครงสร้างเล็กกว่า และน้ำหนักน้อยกว่าจึงไม่พบการเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ การชะลอความยาวจุดต่าง ๆ ของลำตัวก็สอดคลัองกับสนามประกวดกระบือที่แบ่งกระบือเป็นอายุเป็นรุ่นเล็กอายุน้อยกว่า 3 ปีและรุ่นใหญ่มากกว่า 3 ปี เมื่อพิจารณาเขากระบือเพศเมียให้ผลเช่นเดียวกับเพศผู้คือความกว้างกลางเขา เส้นรอบวงเขา และเส้นจากเขาบนมุมกระหม่อมจะมากขึ้นตามอายุ
จากการศึกษาของ Chantalakhana และคณะ (1984) (1) พบว่า เพศผู้โตเต็มที่มีน้ำหนัก 520-560 กิโลกรัม เพศเมีย มีน้ำหนัก 360-400 กิโลกรัม เมื่อกระบืออายุมากกว่า 5 ปี เมื่อศึกษาแบบคละเพศ พบว่าค่า heart girth หรือเส้นรอบอกมีค่า 170 – 210 เซนติเมตร มีความยาวลำตัว 130-147 เซนติเมตร และมีความสูง 120-138 เซนติเมตร ค่าที่ได้ใกล้เคียงกับการศึกษาครั้งนี้โดยมีค่าอยู่ระหว่างกระบือเพศผู้และเพศเมีย โดยกระบือเพศผู้จะมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากระบือเพศเมียมาก อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาของ ประสบ บูรณมนัส (9) พบกระบือพ่อพันธุ์มีน้ำหนักมากกว่า คือมีน้ำหนักถึง 580-910 กิโลกรัม โดยมีความสูง 129-143 เซนติเมตร เส้นรอบอก 192-220 เซนติเมตรและความยาวลำตัว 89-100 เซนติเมตร ซึ่งใกล้เคียงกับค่าที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้ ยกเว้นความยาวลำตัวกลับมีค่าใกล้เคียงกับความยาวจากกระดูกไหล่ถึงปุ่มกระดูกสะโพกซึ่งอาจเป็นผลจากการวัดความยาวลำตัวโดยใช้ตำแหน่งที่ต่างกัน ส่วน กุลภัทร์ และเทอดศักดิ์ (2553) (15) ได้ศึกษาในกระบือปลักเพศผู้ที่มีอายุระหว่าง 4 – 6 ปี จากการประกวดในงานกระบือแห่งชาติหลายครั้งที่ผ่านมาจำนวน 130 ตัว พบว่า น้ำหนักเฉลี่ย 757.88 + 117.22 (532 – 986) กิโลกรัม ความสูงเฉลี่ย 145.85 + 6.76 (130 -184) เซนติเมตร เส้นรอบอกเฉลี่ย 221.64 + 14.00 (138 – 255) เซนติเมตร และความยาวลำตัวเฉลี่ยเท่ากับ 165.33 + 20.94 (102 – 248) เซนติเมตร ซึ่งข้อมูลที่ได้ดังกล่าวมีค่ามากกว่าข้อมูลที่ได้จากการศึกษานี้ ทั้งนี้เป็นผลเนื่องจากเป็นข้อมูลที่ได้จากกระบืองามที่ส่งเข้าประกวด นอกจากนี้ ผลการศึกษาในกระบือลูกผสมระหว่างกระบือปลักและกระบือมูร่าห์ พบว่ากระบือลูกผสมจะมีน้ำหนักตัวมากกว่ากระบือมูร่าห์ (16) อย่างไรก็ตามในการศึกษานี้ไม่ได้ทำการวัดกระบือลูกผสม มูร่าห์แต่อย่างใด
จากการศึกษากระบือเพศเมียที่ตั้งท้องโดยไม่ได้แบ่งแยกอายุ เปรียบเทียบระหว่างกระบือที่ตั้งท้องอ่อน (ท้องน้อยกว่า 4 เดือน) กระบือที่ตั้งท้องมากกว่า 4 เดือนขึ้นไป และกระบือที่ไม่ได้ตั้งท้อง พบว่าไม่มีความแตกต่างของค่าวัดจากจุดต่างๆ อย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นเส้นรอบอกซึ่งขยายขึ้นในกระบือท้องมากกว่า 4 เดือน ผลการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าน้ำหนักของกระบือเพศเมียที่อุ้มท้องมากกว่า 4 เดือน เพิ่มขึ้น โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างตามความยาว ค่าความกว้างของบั้นท้ายเพิ่มขึ้นเช่นกันแต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาในครั้งนี้ อายุเฉลี่ยของกระบือที่ตั้งท้องมากกว่า 4 เดือนขึ้นไป มีค่ามากกว่ากระบือท้องอ่อนและกระบือไม่ตั้งท้อง (8.03, 5.40 และ 5.65 ปี ตามลำดับ) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เส้นรอบอกยาวกว่ากลุ่มดังกล่าว ส่วนจุดวัดอื่น ๆ ของร่างกาย ได้แก่ หางและเขา ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในประเทศเวียดนามมีการศึกษาถึงความกว้างและความยาวของเขาโดยมิได้แบ่งเพศ พบว่าเส้นรอบวงเขามีค่า 56.2 เซนติเมตร ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับของเพศเมียในประเทศไทย ส่วนค่าอื่นมีค่าน้อยกว่ากระบือปลักไทยทั้งเพศผู้และเพศเมียทั้งสิ้น (8) ทั้งนี้อาจเป็นผลจากการศึกษาในกระบือที่อายุต่างกัน สำหรับเขาของกระบือในประเทศไทยไม่มีผู้ศึกษาอย่างจริงจังว่าเขาเช่นใดเป็นเขาที่สวยงาม แต่มีเขาที่นิยมสำหรับกระบือปลักไทยคือเขาอุ้มบาตร เขาวงพระจันทร์ และเขาคันช้อน (17) นอกจากนี้ ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า ทั้งสองเพศ ความกว้างกลางเขา และความยาวเขา มีค่ามากขึ้นตามอายุสอดคล้องกับการทำนายของปราชญ์ชาวบ้านโดยประมาณอายุจากจำนวนร่องเขาที่จะเพิ่มขึ้น 1 ร่องเมื่ออายุเพิ่มขึ้น 1 ปี
ในการศึกษาครั้งนี้ค่าที่บ่งชี้กระบือสวยหรือกระบืองามมาจากการให้คะแนนของปราชญ์ในพื้นที่แต่ละจังหวัดและนักวิชาการ พบว่านักวิชาการและปราชญ์ให้คะแนนความงามของกระบือใกล้เคียงกัน โดยมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าการประเมินในเพศผู้ทั้งรูปร่างทั่วไป หัวและคอ ส่วนหน้า ส่วนลำตัว และส่วนท้ายและอวัยวะสืบพันธุ์ มีค่าใกล้เคียงกันมาก ส่วนในเพศเมียปราชญ์และนักวิชาการให้คะแนนใกล้เคียงกันโดยมีนัยสำคัญทางสถิติทุกส่วนของลำตัว ยกเว้นอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศเมีย บ่งชี้ว่าการประเมินความงามของกระบือทั้งเพศผู้และเพศเมียของปราชญ์และนักวิชาการมีหลักการให้คะแนนที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงกำหนดค่าความงามกระบือจากคะแนนรวมเฉลี่ยของนักวิชาการและปราชญ์ที่ให้กระบือแต่ละตัว แล้วนำไปหาค่าความสัมพันธ์กับจุดต่าง ๆ ที่ได้จากการวัด โดยหาความสัมพันธ์แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กระบือเพศผู้ที่อายุน้อยกว่า 4 ปี และมากกว่า 4 ปี กระบือเพศเมียอายุน้อยกว่า 3 ปีและมากกว่า 3 ปี
ในกระบือเพศผู้อายุน้อยกว่า 4 ปีพบว่าทุกจุดที่ทำการวัดมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับคะแนนความงามที่ตัดสินโดยนักวิชาการและปราชญ์ ยกเว้นเส้นรอบวงเขา และเส้นจากเขาถึงมุมกระหม่อม พบค่าความเชื่อมั่น (R2) สูงสุดที่ตำแหน่งที่เส้นรอบวงเข่า รองลงมาคือ ความสูงของลำตัว ความยาวของลำตัว และความยาวจากไหล่ถึงสะโพก บ่งชี้ว่านักวิชาการและปราชญ์มองกระบือพ่อพันธุ์เพศผู้อายุน้อยกว่า 4 ปี โดยพิจารณาจากความยาวของลำตัว ความสูงและข้อเข่า (knee) ซึ่งมองเห็นได้ตั้งแต่เมื่ออายุยังน้อย ถ้าจะประเมินความงามให้ได้สูงสุดจะใช้เส้นรอบวงเข่าและความสูงมาประเมินร่วมกัน ซึ่งจะได้ความเชื่อมั่น 0.57 และถ้าเพิ่มความยาวเขา จะได้ค่าความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็น 0.65 อย่างไรก็ตาม ถ้าเพิ่มตัวแปรอีก 1 จุด เป็น 4 จุด พบค่าความเชื่อมั่นสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย (0.67) ดังนั้น มีเพียงสามจุดวัดเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้ประเมินกระบืองามเพศผู้อายุน้อยกว่า 4 ปี ทั้งนี้สอดคล้องกับผลการศึกษาที่พบการเพิ่มขึ้นของเส้นรอบวงเข่าที่มีการเพิ่มขึ้นตามอายุในเพศผู้ แสดงให้เห็นว่า ถ้าข้อเข่ามีขนาดใหญ่ จะมีแนวโน้มที่จะสัมพันธ์กับขนาดโครงสร้างร่างกายในอนาคต เป็นที่น่าสังเกตว่า เขาในกระบือเพศผู้อายุน้อยกว่า 4 ปี เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการประเมินกระบืองามเพศผู้ของปราชญ์และนักวิชาการ
ในกระบือเพศผู้ที่อายุมากกว่า 4 ปี พบว่าค่าความเชื่อมั่นสูงสุดเมื่อใช้ตัวแปรเส้นรอบอก (0.70) และรองลงมา คือ ความกว้างสะโพก ช่วงไหล่ ตามลำดับ ค่าความเชื่อมั่นจะได้สูงถึง 0.85 เมื่อใช้เส้นรอบอก และความกว้างสะโพก เมื่อทำการเพิ่มตัวแปรที่สาม คือ ความกว้างปลายเขา พบว่ามีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นอีก (0.89) และถ้าเพิ่มถึงสี่ตัวแปรจะทำให้ความเชื่อมั่นในการทำนายความงามสูงถึง 0.92 จึงสรุปได้ว่าเพศผู้ที่โตแล้วปราชญ์และนักวิชาการจะมองถึงเส้นรอบอก และความกว้างสะโพกเป็นสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานเกณฑ์การตัดสินและการให้คะแนนร่างกาย (14) โดยพบว่าการให้คะแนนส่วนหน้า ได้แก่ ไหล่ และอก รวมกันเป็น7 คะแนน และคะแนนส่วนท้าย สะโพก ก้น และกระดูกเชิงกรานรวม 10 คะแนน
สำหรับเพศเมียที่อายุน้อยกว่า 3 ปี พบว่าการดูกระบืองามทำได้ยากไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างความงามที่ให้คะแนนโดยนักวิชาการและปราชญ์กับค่าที่วัดได้จากจุดต่าง ๆ ของเครื่องสแกน 3 มิติ นอกจากนี้ค่าความเชื่อมั่นมีค่าค่อนข้างต่ำโดยแม้เพิ่มเป็น 4 ตัวแปรก็มีค่าเพียง 0.42 เท่านั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าความกว้างฐานเขา เป็นองค์ประกอบในเกือบทุกสมการ อย่างไรก็ตามจากการศึกษาเบื้องต้น พบว่าค่าความกว้างฐานเขาที่วัดโดยเครื่องสแกน 3 มิติไม่ได้ค่าที่แม่นยำเมื่อเทียบกับการวัดด้วยมือ แสดงว่ากระบือเพศเมียอายุน้อยการให้คะแนนพิจารณาจะมีความแปรปรวนสูง สอดคล้องกับการพิจารณาความงามมักจะกล่าวถึงความสวยงามในกระบือเพศผู้
เป็นหลัก
ในการศึกษาความงามของกระบือเพศเมียอายุมากกว่า 3 ปี พบว่าความเชื่อมั่นสูงสุดมีค่า 0.66 เมื่อพิจารณาเฉพาะความกว้างสะโพก และเมื่อเพิ่มความยาวของลำตัว ค่าความเชื่อมั่นเป็น 0.71 แต่จะเพิ่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อพิจารณาเพิ่มตัวแปรสามและสี่ ดังนั้นความกว้างสะโพกและความยาวลำตัวเป็นปัจจัยสำคัญที่ปราชญ์และนักวิชาการนำมาประเมินความงามกระบืออายุมากกว่า 3 ปี สอดคล้องกับคุณลักษณะของแม่พันธุ์ที่ดีที่ควรมีสะโพกกว้างและลำตัวขนาดใหญ่
ในการศึกษาครั้งนี้พบว่ามีกระบือที่อยู่ในข่ายกระบืองาม คือมีกระบือที่มีคะแนนตกอยู่ใน 80% อยู่ 25 ตัว ในกลุ่มกระบือทีทำการศึกษารวมทั้งสิ้น 188 ตัว กระบือดังกล่าวเป็นกระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่มีประวัติการประกวด เกือบทั้งสิ้น กระบือสวยเหล่านี้มีราคาสูง คือมีราคาในเพศผู้อย่างน้อย 50,000 – 150,000 บาท และมีราคาในเพศเมียอย่างน้อย 70,000 – 120,000 บาท กระบือพ่อพันธุ์ส่วนหนึ่งเป็นกระบือของศูนย์บำรุงพันธุ์สัตว์ เช่น SRS 42/38 อยู่ที่ศูนย์บำรุงพันธุ์สัตว์ จังหวัดสุรินทร์ ส่วนกระบือบางตัว เช่น สิงโต เป็นกระบือของเกษตรกรเอง และมีการใช้ประโยชน์ฯ คือ ใช้รับจ้างผสมกระบือเพศเมียของเกษตรกรอื่น ๆ จากการศึกษาของทองสุข 2535 (11) โดยเปรียบเทียบการผสมกระบือสามแบบ คือ การปล่อยตามธรรมชาติ การใช้บริการผสมเทียม และการใช้บริการพ่อพันธุ์ พบว่าการผสมแบบหลังสุด มีอัตราการเกิดของลูกมากสุดคือ 71.43 % ต่อปีและมีอัตราการแท้งน้อยที่สุดคือ 4.76% ต่อปี (ศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531-2535) ในปัจจุบันเกษตรกรก็ยังนิยมการใช้บริการพ่อพันธุ์ของเกษตรกรในหมู่บ้าน โดยยอมจ่ายค่าตอบแทนครั้งละ 500 – 1,000 บาท ข้อเสียของการใช้กระบือพ่อพันธุ์ของเกษตรกรคืออาจเป็นการแพร่โรคระบาด (โรคแท้งติดต่อ)ได้ง่าย และพ่อพันธุ์อาจไม่ยอมผสมกับแม่พันธุ์ ดังนั้นในกรณีดังกล่าวจึงต้องใช้การผสมเทียม อย่างไรก็ตามการผสมเทียมก็มีข้อจำกัดคือ แม่พันธุ์มักเป็นสัดเงียบ หรือแสดงอาการเป็นสัดไม่ชัดเจน นอกจากนี้เกษตรกรจังหวัดอุทัยธานียังมีการตื่นตัวในการอนุรักษ์กระบืองามโดยได้จัดตั้งหมู่บ้านควายงามทำให้มีกระบืองามจำนวนมากอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี แม้ว่าปัจจุบันกระบือจะมิได้ถูกนำมาเป็นแหล่งแรงงานเช่นเดียวกับในอดีต กระบือบางส่วนถูกนำไปขายเป็นแหล่งอาหารโปรตีน และที่สำคัญคือกระบือถือเป็นแหล่งเงินออมของครอบครัว (11) การผสมแล้วได้ลูกกระบือที่มีลักษณะงามเหมือนกับสินทรัพย์ในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉลี่ยกระบือที่ไม่ได้คัดสายพันธุ์อายุ ประมาณ 2 – 3 ปี เมื่อขายสู่ตลาดจะมีราคาประมาณ 12,000 – 17,000บาท ขึ้นกับปริมาณน้ำหนักเนื้อ และความพึงพอใจของเกษตรกรกับพ่อค้า แต่ถ้ามีกระบือสวยที่มีอายุเท่ากันจะไม่ถูกส่งเป็นกระบือเนื้อแต่จะถูกเปลี่ยนเป็นกระบือพ่อแม่พันธุ์ที่มีราคาแพงขึ้นคือมีราคาถึงตัวละ 25,000 – 50,000 บาท เป็นที่น่าสังเกตว่าเนื้อของกระบือปลักเป็นเนื้อที่มีคุณภาพที่ดีเมื่อเทียบกับกระบือแม่น้ำมูร่าห์ โดยพบว่าจะมีปริมาณของน้ำแทรกอยู่ในเนื้อน้อยกว่า (18, 19) จากการศึกษาครั้งนี้แสดงค่าเฉลี่ย ค่าสูงสุดและค่าต่ำสุดของกระบือทั้ง 25 ตัว ที่จัดลำดับแล้ว กระบือเพศเมียและผู้ที่โตเต็มที่มีความสูงเกินกว่า 140 เซนติเมตร รอบอก 240 เซนติเมตร ส่วนความยาวลำตัวในเพศผู้จะยาวกว่าเพศเมีย โดยความยาวเพศผู้มีความยาว 141 ซม.และเพศเมียมีความยาว 131 ซม. ความยาวของเส้นรอบวงเข่าในเพศผู้จะใหญ่กว่าเพศเมียเล็กน้อย ส่วนความยาวเขาโดยเฉพาะความกว้างกลางเขาในเพศผู้ใหญ่กว่าเพศเมียคือ 70 และ 64 เซนติเมตร ตามลำดับ
จากที่ได้ศึกษาถึงการประเมินกระบือสวยแล้วนั้น ยังเป็นที่ทราบดีว่าปราชญ์และนักวิชาการได้ประเมินสิ่งอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น อารมณ์ ท่าทางการเดิน ลักษณะเขา สีผิวและขน ลักษณะตา เป็นต้น ได้มีผู้รายงานไว้มากมาย (6, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 17)ซึ่งได้กล่าวถึงในบทที่ 5
จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าในการทำนายน้ำหนักทั้งหมดโดยไม่แยกเพศ พบค่าความเชื่อมั่นสูงสุด เมื่อพิจารณาความยาวลำตัวระหว่างไหล่ถึงสะโพก (R2 เท่ากับ 0.68) เมื่อเพิ่มเส้นรอบอกพบค่าความเชื่อมั่นสูงถึง 0.76 และไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเพิ่มตัวแปรสามและสี่ จากการศึกษาของสุวัจน์ (2517)(20) ศึกษาในกระบือปลักคละเพศตั้งแต่หย่านมถึงโตเต็มวัยพบว่าน้ำหนักตัวสัมพันธ์กับเส้นรอบอกโดยมีค่าถึง 0.94 และยังสอดคล้องกับการศึกษาในกระบือ 2-4 ปี ของนิกรและคณะ (21) ที่พบค่าสหสัมพันธ์ในเส้นรอบอกมีค่าเท่ากับ 0.97 ความสูงเท่ากับ 0.83 และความยาวลำตัวเท่ากับ 0.75 และของอัญชลีและคณะ(22) ที่ศึกษาในกระบืออายุ 1-2 ปี พบค่าสัมประสิทธิ์ การตัดสินใจ (R2) มีค่า 0.94 ส่วนการศึกษาของ Chanthalakana และคณะ (1983)(23) พบสหสัมพันธ์ มีค่า 0.74, 0.82 และ0.56 ตามลำดับ ในขณะที่ศรชัยและคณะ 2544 (24) ศึกษาในกระบือปลักคละเพศเมื่อหย่านมในอายุ 2 ปีพบค่าสหสัมพันธ์เท่ากับ 0.93, 0.87 และ0.88 ตามลำดับ
เมื่อศึกษาน้ำหนักในกระบือเพศผู้ ให้ผลเช่นเดียวกันกับการศึกษาอื่นคือ ตัวแปรเส้น
รอบอกมีความเชื่อมั่นสูงสุด(0.78) และเมื่อเพิ่มความกว้างสะโพก ความกว้างไหล่ หรือความยาวลำตัว ลักษณะใดลักษณะหนึ่งจะมีค่าความเชื่อมั่นสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย จึงสามารถใช้สมการทำนายน้ำหนักโดยใช้สมการที่มีความยาวรอบอกเท่านั้น สอดคล้องกับการศึกษาของนิกรและคณะ(2546) (18) นอกจากนี้สุนทรและประภัสสร(2554) (26) ยังได้ศึกษาในกระบือคละเพศพบว่าค่าสหสัมพันธ์ทางพันธุกรรม (Genetic correlation) ระหว่างน้ำหนักตัวกับความยาวรอบอกสูงในกระบือแรกเกิดและหย่านม ดังนั้นจึงมีการใช้ความยาวรอบอกมาประเมินน้ำหนักโดยการใช้สายวัดเพื่อประเมินน้ำหนักในพื้นที่ (27)
ในการศึกษากระบือเพศเมียพบความเชื่อมั่นสูงสุดเมื่อใช้ความกว้างบั้นท้าย (0.78) และเมื่อเพิ่มปัจจัยที่สองเช่นช่วงไหล่ ความยาวลำตัว ความกว้างสะโพก เส้นรอบอก หรือความสูง ค่าความเชื่อมั่นจะเพิ่มสูงขึ้น (0.79-0.86) แต่เมื่อเพิ่มตัวแปรที่สามหรือสี่ความเชื่อมั่นจะเพิ่มสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย เป็นที่น่าสังเกตุว่าความกว้างบั้นท้ายมีอยู่ในทุกสมการ ดังนั้นจะเห็นว่าในกระบือเพศเมียน้ำหนักส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความกว้างของบั้นท้าย มากกว่าความสูงและเส้นรอบอก แต่เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากในกระบือเพศเมีย มีความสูงและเส้นรอบอกน้อยกว่าเพศผู้
เมื่อคิดค่าความสัมพันธ์ polynomial มีค่า R2 สูงกว่าค่า simple regression ผลดังกล่าวสอดคล้องกับ ราตรี และคณะ(2549) (25) ที่ศึกษาความสัมพันธ์ของน้ำหนักและเส้นรอบอกในกระบือพันธ์มูร่าห์และกระบือปลักทั้งเพศผู้และเพศเมีย โดยพบค่า polynomial ได้ค่าสูงกว่าการใช้ linear และ exponential regression ถ้าใช้ตัวแปรเดียวในการประเมินน้ำหนักสามารถใช้สมการ polynomial แทน simple linear regression ทำให้ได้ค่าน้ำหนักที่แม่นยำกว่า อย่างไรก็ตามในการที่จะนำสมการทำนายน้ำหนักตัวกระบือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้เส้นรอบอกของกระบือไปใช้ในภาคสนามนั้น ผู้ใช้จะต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของสมการว่ามีความเหมาะสมกับอายุ ขนาด และเพศของกระบือประกอบด้วย ทั้งนี้โดยเฉพาะในกระบือที่มีอายุมากกว่า 4 ปีขึ้นไป ข้อจำกัดในเรื่องของเพศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การทำนายน้ำหนักเกิดความผิดพลาดได้ เนื่องจากการพัฒนาการในส่วนโครงสร้างร่างกายที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นสมการที่เหมาะสมน่าจะแยกออกจากกันให้ชัดเจนระหว่างเพศและช่วงอายุ
โดยสรุปการศึกษาครั้งนี้แสดงข้อมูลค่าที่ได้จากการวัดจุดในกระบือเพศผู้และเพศเมีย ในช่วงอายุที่แตกต่างกัน ทั้งในประชากรกระบือที่ทำการศึกษาจาก 5 จังหวัดและในกระบือพ่อแม่พันธุ์ชั้นดี การศึกษาครั้งนี้ทำให้ทราบถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักวิชาการและปราชญ์ประเมินกระบืองาม ในแต่ละช่วงอายุของแต่ละเพศด้วย ความเชื่อมั่นในการประเมินกระบืองามไม่สามารถประเมินค่าได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการพิจารณากระบืองามต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่น นอกเหนือจากการวัดด้วยเครื่องสแกน 3 มิติ เช่น ลักษณะเขา สีขน ลักษณะตา อารมณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ค่าที่วัดได้จากเครื่องสแกน 3 มิติยังสามารถนำไปใช้สร้างสมการทำนายน้ำหนักในกระบือทั้งสองเพศ ในการศึกษาครั้งนี้พบค่าความเชื่อมั่นแม้จะมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่มีค่าต่ำกว่าในหลายการศึกษา ทั้งนี้เป็นผลเนื่องมาจากจำนวนกระบือที่ใช้ในการศึกษามีจำนวนน้อยกว่าการศึกษาอื่น